ข้อสอบ
1.ในการจักประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัยท่านต้องศึกษาในเรื่องใดบ้าง
-หลักในการจัดประสบการณ์ทางำภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
-ความหมายของการจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
-ความสำคัญขอองการจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
-ทฤษฏไพฒนาการทางสติปัญาสำหรับเด็กปฐมวัย
-แนวคิดนักการศึกษา
2.การจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัยมีวัตถุประสงค์อะไร
-เพื่อให้เด็กสื่อสารกับผู้อื่นได้
-เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้การใช้ภาษา
-เพื่อให้เด็กรู้จักการออกเสียงที่ถูกต้อง
-เพื่อให้เด็กมีโอกาศในการใช้ภาษา
3.หลักในการจัดประสบการณ์การทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัยมีอะไรบ้าง
-การจัดให้สอดคล้องกับพัฒนาการของเด็ก
-การจัดให้เด็กได้ใช้ภาษาอย่างอิสระ
-การจัดให้ครอบคุมเนื้อหาสำหรับเด็ก
4.ท่านมีแนวทางในการให้ความรู้กับผู้ปกครองเพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาได้อย่างไรบ้าง
-ให้ผู้ปกครองดูแลเอาใจไส่เด็กทุกๆด้าน
-รับฟังและพูดคุยกับเด็กเมื่อเด็กพูดด้วย
-การเล่านิทานให้เด็กฟังก็ช่วยส่งเสริมทักษะทางภาษาได้อย่างดี
-พาเด็กไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ
5.ให้ท่านเลือกกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาที่ท่านชอบมากที่สุดพร้อมให้เหตุผลชื่อ วัฒถุประสงค์ กิจกรรม ประเมินผล
ชื่อกิจกรรม การเล่านิทานโดยใช้เทปอัดเสียง
วัตถุประสงค์
.เพื่อให้เด็กเรียนรู้ทักษะการฟัง
.เพื่อให้เด็กใช้ภาษาอย่างถูกต้อง
.เพื่อให้เด็กมีสมาธิในการฟัง
กิจกรรม
.ใช้การเปิดนิทานที่เตรียมไว้เปิดให้เด็กฟัง พร้อมกับเตรียมสื่อหรือรูปภาพเพื่อเป็นการจูงใจ
แล้วพูดคุยซักถามเกี่ยวกับเหตุการที่เกิดขึ้น
ประเมินผล
.สังเกตการตอบคำถาม
.สังเกตการฟัง
.สังเกตท่าทางที่แสดงออกมา
วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2553
วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
วิจัยแบบพัฒนาทักษะ การพูดและอ่านภาพเชิงสร้างสรรค์ สำหรับเด็กปฐมวัย
เสริมประสบการณ์ทักษะทางภาษา ชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนบ้านวังท่าดี อำเภอหนองไผ่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพชรบูรณ์ เขต 3 จำนวน 25 คน
นางบานชื่น พุ่มชะเอม ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านวังท่าดี
กรอบแนวคิดในการศึกษารายงาน การศึกษารายงานในครั้งนี้ผู้รายงานมุ่งศึกษาการหาประสิทธิภาพของ แบบพัฒนาทักษะ การพูดและอ่านภาพเชิงสร้างสรรค์ สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 4-5 ขวบ) เสริมประสบการณ์ทักษะทางภาษา ซึ่งจะเป็นผลให้เด็กอนุบาลปีที่ 2 มีพัฒนาการด้านการพูดให้ดีขึ้น วัตถุประสงค์ของการศึกษา
1. เพื่อพัฒนาสื่อแบบพัฒนาทักษะ การพูดและอ่านภาพเชิงสร้างสรรค์ สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 4-5 ขวบ) เสริมประสบการณ์ทักษะทางภาษา
2. เพื่อหาประสิทธิภาพแบบพัฒนาทักษะ การพูดและอ่านภาพเชิงสร้างสรรค์ สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 4-5 ขวบ) เสริมประสบการณ์ทักษะทางภาษา ของเด็กระดับปฐมวัย ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
3. เพื่อประเมินประสิทธิภาพ แบบพัฒนาทักษะ การพูดและอ่านภาพเชิงสร้างสรรค์ สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 4-5 ขวบ) เสริมประสบการณ์ทักษะทางภาษา ก่อนและหลัง พัฒนาแบบพัฒนาทักษะ การพูดและอ่านภาพเชิงสร้างสรรค์ สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 4-5 ขวบ) เสริมประสบการณ์ทักษะทางภาษา
4. ประเมินความพึงพอใจของเด็กอนุบาลปีที่ 2 ต่อการเรียนรู้ โดยใช้แบบพัฒนาทักษะ การพูดและอ่านภาพเชิงสร้างสรรค์ สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 4-5 ขวบ) เสริมประสบการณ์ทักษะ ทางภาษา
ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป
1. ควรศึกษาความสามารถในการพูดประโยคยาว ๆ ด้วยแบบพัฒนาทักษะ การพูดและอ่านภาพเชิงสร้างสรรค์ สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 4-5 ขวบ) เสริมประสบการณ์ทักษะทางภาษา
2. ควรได้มีการศึกษาผลแบบพัฒนาทักษะ การพูดและอ่านภาพเชิงสร้างสรรค์ สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 4-5 ขวบ) เสริมประสบการณ์ทักษะทางภาษา กับกลุ่มตัวอย่างกลุ่มอื่น เช่นนักเรียนอนุบาลในศูนย์พัฒนาวิชาการต่าง ๆ รวมทั้งเว็บไซต์ทางการศึกษา
3. สามารถนำแบบพัฒนาทักษะการพูดและอ่านภาพเชิงสร้างสรรค์ไปปรับประยุกต์ใช้กับนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาได้
เสริมประสบการณ์ทักษะทางภาษา ชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนบ้านวังท่าดี อำเภอหนองไผ่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพชรบูรณ์ เขต 3 จำนวน 25 คน
นางบานชื่น พุ่มชะเอม ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านวังท่าดี
กรอบแนวคิดในการศึกษารายงาน การศึกษารายงานในครั้งนี้ผู้รายงานมุ่งศึกษาการหาประสิทธิภาพของ แบบพัฒนาทักษะ การพูดและอ่านภาพเชิงสร้างสรรค์ สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 4-5 ขวบ) เสริมประสบการณ์ทักษะทางภาษา ซึ่งจะเป็นผลให้เด็กอนุบาลปีที่ 2 มีพัฒนาการด้านการพูดให้ดีขึ้น วัตถุประสงค์ของการศึกษา
1. เพื่อพัฒนาสื่อแบบพัฒนาทักษะ การพูดและอ่านภาพเชิงสร้างสรรค์ สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 4-5 ขวบ) เสริมประสบการณ์ทักษะทางภาษา
2. เพื่อหาประสิทธิภาพแบบพัฒนาทักษะ การพูดและอ่านภาพเชิงสร้างสรรค์ สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 4-5 ขวบ) เสริมประสบการณ์ทักษะทางภาษา ของเด็กระดับปฐมวัย ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
3. เพื่อประเมินประสิทธิภาพ แบบพัฒนาทักษะ การพูดและอ่านภาพเชิงสร้างสรรค์ สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 4-5 ขวบ) เสริมประสบการณ์ทักษะทางภาษา ก่อนและหลัง พัฒนาแบบพัฒนาทักษะ การพูดและอ่านภาพเชิงสร้างสรรค์ สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 4-5 ขวบ) เสริมประสบการณ์ทักษะทางภาษา
4. ประเมินความพึงพอใจของเด็กอนุบาลปีที่ 2 ต่อการเรียนรู้ โดยใช้แบบพัฒนาทักษะ การพูดและอ่านภาพเชิงสร้างสรรค์ สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 4-5 ขวบ) เสริมประสบการณ์ทักษะ ทางภาษา
ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป
1. ควรศึกษาความสามารถในการพูดประโยคยาว ๆ ด้วยแบบพัฒนาทักษะ การพูดและอ่านภาพเชิงสร้างสรรค์ สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 4-5 ขวบ) เสริมประสบการณ์ทักษะทางภาษา
2. ควรได้มีการศึกษาผลแบบพัฒนาทักษะ การพูดและอ่านภาพเชิงสร้างสรรค์ สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 4-5 ขวบ) เสริมประสบการณ์ทักษะทางภาษา กับกลุ่มตัวอย่างกลุ่มอื่น เช่นนักเรียนอนุบาลในศูนย์พัฒนาวิชาการต่าง ๆ รวมทั้งเว็บไซต์ทางการศึกษา
3. สามารถนำแบบพัฒนาทักษะการพูดและอ่านภาพเชิงสร้างสรรค์ไปปรับประยุกต์ใช้กับนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาได้
วันศุกร์ ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2553
จากสัปดาห์ที่แล้ว ให้นักศึกษาไปอ่านเรื่องนิทาน
" แม่ไก่สีแดง " ซึ่งวันนี้อาจารย์ได้เรื่องการจัดประสบการณ์ทางภาษาในให้เล่า
และวิเคราะห์เรื่องแม่ไก่สีแดง....
จากที่ได้ไปศึกษาเนื้อเรื่องแม่ไก่สีแดงดิฉันจะเล่าตามความเข้าใจของฉันนะคะ...
เรื่องมีอยู่ว่า...ในบ้านหลังหนึ่งมีสัตว์ 4 ชนิดคือ หมู แมว เป็ด และแม่ไก่สีแดง
แม่ไก่สีแดงเป็นสัตว์ที่ขยันกว่าตัวอื่นๆ วันหนึ่งชาวนาจึงให้ข้าวมากระบุงหนึ่ง...
แม่ไก่ถามเพื่อนๆว่า "มีใครจะช่วยฉันตำข้าวบ้าง"หมู แมว เป็ดต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า " ไม่ ! "
จากนั้นแม่ไก่ก็ถามต่อว่า"ใครจะช่วยฉันขูดมะพร้าวบ้าง" สัตว์ทุกตัวก็ตอบอีกว่า "ไม่"
แม่ไก่แดงไปที่กระต่ายขูดมะพร้าว ขูดมะพร้าวคั้นกะทิจนเสร็จ แม่ไก่แดงก็ถามอีกว่า "มีใครจะช่วยฉันติดไฟบ้าง" สัตว์ทุกตัวก็ปฏิเสธการการขอความช่วยเหลือจากแม่ไก่สีแดง
พอแม่ไก่แดงติดไฟเสร็จแล้วก็เริ่มหยดน้ำแป้งและน้ำกะทิลงในเบ้าขนมครก พอขนมครกนั้นสุกได้ที่ ก็สิ่งกลิ่นหอมหวนชวนรับประทาน หมู แมว และเป็ด ต่างก็วิ่งมาดูขนมครกรู้สึกอยากกินขนมครกนั้นเป็นอย่างมาก....
แม่ไก่สีแดงก็ถามว่า "มีใครอยากช่วยฉันกินขนมครกบ้าง"หมู เป็ดและแมวรีบตอบโดยเร็วว่า "ฉันจะช่วย"แต่แม่ไก่แดงตอบว่า.... "อย่าช่วยฉันเลย,, ฉันทำทุกอย่างได้เอง ฉันตำข้าว โม่แป้ง ขูดมะพร้าว ติดไฟ แคะขนมครกเอง และฉันก็จะกินขนมครกของฉันเองเหมือนกัน" แล้วแม่ไก่สีแดงก็ยกจานขนมครกไปนั่งกินคนเดียวตามลำพัง...."แต่จริงๆแล้วแม่ไก่สีแดงก็อยากให้เพื่อนๆมากินขนมครกด้วยกัน แต่คิดว่าควรให้เพื่อนๆสำนึกสักครั้งว่า ไม่ควรเอาแต่สบายให้เพื่อนทำงานอยู่คนเดียวแล้วหวังผลแต่จะสบาย "
หมู เป็ดและแมวรู้สึกเสียใจมาก ดังนั้นในวันต่อๆมาพวกเพื่อนๆจึงไม่ปล่อยให้แม่ไก่สีแดงต้องทำนตามลำพังอีกแต่จะช่วยกันทำงานเสมอ แม่ไก่สีแดงรู้สึกสบายใจ... เพื่อนๆก็มีความสุข^^
" แม่ไก่สีแดง " ซึ่งวันนี้อาจารย์ได้เรื่องการจัดประสบการณ์ทางภาษาในให้เล่า
และวิเคราะห์เรื่องแม่ไก่สีแดง....
จากที่ได้ไปศึกษาเนื้อเรื่องแม่ไก่สีแดงดิฉันจะเล่าตามความเข้าใจของฉันนะคะ...
เรื่องมีอยู่ว่า...ในบ้านหลังหนึ่งมีสัตว์ 4 ชนิดคือ หมู แมว เป็ด และแม่ไก่สีแดง
แม่ไก่สีแดงเป็นสัตว์ที่ขยันกว่าตัวอื่นๆ วันหนึ่งชาวนาจึงให้ข้าวมากระบุงหนึ่ง...
แม่ไก่ถามเพื่อนๆว่า "มีใครจะช่วยฉันตำข้าวบ้าง"หมู แมว เป็ดต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า " ไม่ ! "
จากนั้นแม่ไก่ก็ถามต่อว่า"ใครจะช่วยฉันขูดมะพร้าวบ้าง" สัตว์ทุกตัวก็ตอบอีกว่า "ไม่"
แม่ไก่แดงไปที่กระต่ายขูดมะพร้าว ขูดมะพร้าวคั้นกะทิจนเสร็จ แม่ไก่แดงก็ถามอีกว่า "มีใครจะช่วยฉันติดไฟบ้าง" สัตว์ทุกตัวก็ปฏิเสธการการขอความช่วยเหลือจากแม่ไก่สีแดง
พอแม่ไก่แดงติดไฟเสร็จแล้วก็เริ่มหยดน้ำแป้งและน้ำกะทิลงในเบ้าขนมครก พอขนมครกนั้นสุกได้ที่ ก็สิ่งกลิ่นหอมหวนชวนรับประทาน หมู แมว และเป็ด ต่างก็วิ่งมาดูขนมครกรู้สึกอยากกินขนมครกนั้นเป็นอย่างมาก....
แม่ไก่สีแดงก็ถามว่า "มีใครอยากช่วยฉันกินขนมครกบ้าง"หมู เป็ดและแมวรีบตอบโดยเร็วว่า "ฉันจะช่วย"แต่แม่ไก่แดงตอบว่า.... "อย่าช่วยฉันเลย,, ฉันทำทุกอย่างได้เอง ฉันตำข้าว โม่แป้ง ขูดมะพร้าว ติดไฟ แคะขนมครกเอง และฉันก็จะกินขนมครกของฉันเองเหมือนกัน" แล้วแม่ไก่สีแดงก็ยกจานขนมครกไปนั่งกินคนเดียวตามลำพัง...."แต่จริงๆแล้วแม่ไก่สีแดงก็อยากให้เพื่อนๆมากินขนมครกด้วยกัน แต่คิดว่าควรให้เพื่อนๆสำนึกสักครั้งว่า ไม่ควรเอาแต่สบายให้เพื่อนทำงานอยู่คนเดียวแล้วหวังผลแต่จะสบาย "
หมู เป็ดและแมวรู้สึกเสียใจมาก ดังนั้นในวันต่อๆมาพวกเพื่อนๆจึงไม่ปล่อยให้แม่ไก่สีแดงต้องทำนตามลำพังอีกแต่จะช่วยกันทำงานเสมอ แม่ไก่สีแดงรู้สึกสบายใจ... เพื่อนๆก็มีความสุข^^
วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
การให้ความรู้แก่ผู้ปกครอง เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางด้านคุณธรรม จริยธรรมของเด็ก
การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อจัดทำคู่มือการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางคุณธรรม จริยธรรมของเด็กปฐมวัย เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ปกครองนำคู่มือไปใช้ในการพัฒนาเด็กปฐมวัยได้อย่างเหมาะสมกลุ่มตัวอย่างในการค้นคว้าทดลองนี้ได้แก่ผู้ปกครองของเด็กปฐมวัยในโรงเรียนอนุบาลกาญจนบุรี ในปีการศึกษา 2548 อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี สำนักเขตพื้นที่การศึกษากาญจนบุรี เขต 1 จำนวน 10 คน และนักเรียนระดับ ชั้นอนุบาล 1/4 รวมจำนวน 10 คน กลุ่มทดลองได้มาจากการสุ่มโดยวิธีเจาะจง ซึ่งกลุ่มทดลองจะได้รับคู่มือการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางคุณธรรม จริยธรรมของเด็กปฐมวัย เป็นระยะเวลา 5 วัน จำนวน 4 ชุดกิจกรรมเครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการ คือ คู่มือการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางคุณธรรม จริยธรรมของเด็กปฐมวัย แบบประเมินพฤติกรรมของเด็กปฐมวัย ก่อนการใช้คู่มือ และหลังการใช้คู่มือ และแบบประเมินคู่มือการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางคุณธรรม จริยธรรมของเด็กปฐมวัย
การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อจัดทำคู่มือการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางคุณธรรม จริยธรรมของเด็กปฐมวัย เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ปกครองนำคู่มือไปใช้ในการพัฒนาเด็กปฐมวัยได้อย่างเหมาะสมกลุ่มตัวอย่างในการค้นคว้าทดลองนี้ได้แก่ผู้ปกครองของเด็กปฐมวัยในโรงเรียนอนุบาลกาญจนบุรี ในปีการศึกษา 2548 อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี สำนักเขตพื้นที่การศึกษากาญจนบุรี เขต 1 จำนวน 10 คน และนักเรียนระดับ ชั้นอนุบาล 1/4 รวมจำนวน 10 คน กลุ่มทดลองได้มาจากการสุ่มโดยวิธีเจาะจง ซึ่งกลุ่มทดลองจะได้รับคู่มือการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางคุณธรรม จริยธรรมของเด็กปฐมวัย เป็นระยะเวลา 5 วัน จำนวน 4 ชุดกิจกรรมเครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการ คือ คู่มือการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางคุณธรรม จริยธรรมของเด็กปฐมวัย แบบประเมินพฤติกรรมของเด็กปฐมวัย ก่อนการใช้คู่มือ และหลังการใช้คู่มือ และแบบประเมินคู่มือการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางคุณธรรม จริยธรรมของเด็กปฐมวัย
วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
วันศุกร์ ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2553
ภาษา เกิดจากการฟัง พูด อ่าน เขียนการจัดประสบการณ์ให้เด็กและการจัดให้มีประสบการณ์และมีกิจกรรเป็นตัวช่วยเสริมพัฒนาตามช่วยวัยของเด็กเพื่อให้เด็กได้ใช้ภาษา และในแต่ละครั้ง ต้องมีการประเมินผล-โดยการสังเกต-การสนทนา-ประเมินจากผลงานรายงานวันนี้
1.เล่านิทานประกอบภาพ
2.การฟังนิทาน
3. ปฏิบัติตามคำสั่ง
4.เล่านืทานพร้อมภาพประกอบการปฏิบัญตามคำสั่ง
ต้องมึความสนใจเพื่อให้เด็กมีสมาธิและมีประสาทสัมผัลส์การเล่านิทาน ต้องหานังสือนิทานให้มีความตื่นเต้น และมีสื่อต่างๆที่น่าสนใจภาพที่สวยน่าดูมีสิ่งแปลกใหม่ และเทคนิคต่างจากเดิม การจัดสภาพแวดล้อมในห้องเรียนเด็กจัดให้เห็นเป็นมุนต่างๆ เช่น มุนบล็อก มุนหนังสือ ร้านค้า บทบาทสมหมุน มุนวิทยาศาสตร์โยผ่านจากการอ่านผ่านสายตาของเด็กให้มากที่สุด จัดระบบของสิ่งของให้เป็นเหมือนธรรมชาติการใช้ของร่วมกัน การเก็บของเข้าที่เหมือนเดิม
วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553
วันศุกร์ ที่ 29 มกราคม 2553
สิ่งที่เรียนในวันนี้
1.ออกไปรายงานการทำกิจกรรมที่โรงเรียนสาธิตจันทรเกษม
- เรื่องการเล่านิทานให้เด็กฟังโดยการเปิดเทป
2.อาจารย์คอมเมนท์งาน
3.ปรับปรุงงานให้เสร็จภายในคาบและส่ง
4.ฟังเพื่อนวิเคราะห์กิจกรรมของแต่ละกลุ่ม
บรรยากาศในห้องเรียน
วันนี้อากาศเย็นเนื่องจากมีฝนตกหนักจึงทำให้อาจารย์ผู้สอนเปียกฝน
นักศึกษาบางคนก็ง่วงนอนเนื่องจากอากาศเย็นสบาย แต่เมื่ออาจารย์ถาม
คำถามเพื่อก็ถึงกับตื่นเลยทีเดียว
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)